BNI (บีเอ็นไอ) หรือ Business Network International มีหลักการง่ายๆ ก็คือ การรวมตัวของนักธุรกิจที่มีอาชีพที่แตกต่างกัน จากนั้นก็จะมีการประชุมกันเพื่อแนะนำลูกค้าหรือส่งต่อ Connection ดีๆ ให้แก่กันและกัน เช่น สมมุติเราขายรถจักรยานยนต์ รู้จักกับเพื่อนที่ขายหมวกกันน็อก เมื่อเราไปเจอลูกค้าที่รู้จักกันมาหรือทำธุรกิจร่วมกันมาก่อน เราเข้าไปถามว่าสนใจหมวกกันน็อกไหม เราจะแนะนำเพื่อนให้ เขาทำอาชีพนี้อยู่ สินค้ามีคุณภาพ ไว้ใจได้ เราก็แนะนำให้เขานั่นเองค่ะ
โดยกฎหลักของการเป็นสมาชิกในกลุ่มของ BNI ก็คือ ธุรกิจที่จะเข้ามาใน BNI จะต้องไม่ไปซ้ำกับธุรกิจใดเลย ซึ่งนั่นจะเป็นข้อดีสำหรับธุรกิจที่เข้ามาเป็นสมาชิกนั่นเองค่ะ เพราะลูกค้าของแต่ละคน อาจจะใช้สินค้าและบริการจากหลากหลายแหล่ง การส่งต่อลูกค้าของเราให้ไปซื้อสินค้าและบริการอื่นๆ ที่เราไม่ได้ทำจากเพื่อนในกลุ่มเป็นการช่วยเพื่อนทำธุรกิจ เราส่งลูกค้าเราให้เพื่อน เพื่อนส่งลูกค้าให้เรา เรากับเพื่อนไม่ได้แย่งกันขายของเพราะธุรกิจคนละอย่างกัน ทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน เรากับเพื่อนได้ธุรกิจ ลูกค้าของเราได้สินค้าและบริการที่หลากหลาย ก็ถือว่าตอบโจทย์และยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีทางธุรกิจได้อีกด้วยค่ะ
ที่สำคัญไปกว่านั้น ข้อมูลลูกค้าของสมาชิก BNI จะไม่มีการไหลรั่วอย่างแน่นอน เนื่องจากภายในกลุ่ม BNI จะไม่มีคู่แข่งทางธุรกิจเข้ามาเป็นสมาชิกใน BNI จึงเป็นเรื่องดีที่ส่งผลให้โอกาสทางธุรกิจของสมาชิก BNI ในกลุ่มสามารถเติบโตและขยายตัวได้ด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และจุดสำคัญข้อหนึ่งก็คือ เมื่อท่านมีความสนใจจะเข้ามาเป็นสมาชิก BNI ท่านไม่สามารถเดินเข้ามาและขอสมัครได้ด้วยสมาชิก BNI แต่ท่านสามารถเข้าร่วมการประชุมและสมัครได้ด้วยการถูกสมาชิก BNI ในกลุ่มนักธุรกิจ BNI ชวนให้เข้ามาร่วมการประชุมเท่านั้นนะคะ
