เรื่องราวของชายคนนึง….ที่มีชื่อว่า ???

มาดูกันว่า ใครจะทายถูกบ้าง ว่าชายผู้นี้ชื่ออะไร ในระหว่างที่ผมกำลังเล่าเรื่องราวของชายผู้นี้ ? และเรื่องราวของชายผู้นี้ สอนอะไรเราบ้าง ?

.
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ชายคนดังกล่าว ก็กลับไปที่ประเทศของตน และกลับมาโรงนาของตัวเอง แต่ด้วยความที่เป็นคนมีความรู้ด้านเครื่องยนต์เลยทำการซ่อมรถแทรกเตอร์ที่โรงนามาเรื่อยๆ จนวันนึงได้มีโอกาสเป็นเจ้าของโรงงานรถแทรกเตอร์ ที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง

.
และในวันที่ชายผู้นี้ประสบความสำเร็จในระดับนึงแล้ว ด้วยความที่เค้าชอบเครื่องยนต์เป็นอย่างมาก เค้าจึงเริ่มซื้อรถ Ferrari มาใช้งาน แต่ในขณะที่เค้าขับไปสักพัก เค้าก็รู้สึกว่า เครื่องยนต์ของ Ferrari ยังมีปัญหาอยู่ จึงได้นำส่งซ่อมอยู่หลายครั้ง แต่ปัญหาดังกล่าวก็ไม่ได้รับการแก้ไข

.
จนวันนึง ชายผู้นี้ ได้มีโอกาสพบเจ้าของบริษัท เฟอร์รารี่ “คุณเอนโซ เฟอร์รารี่” และได้บอกเล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถ Ferrari ให้คุณเอนโซ ฟัง โดยคุณเอนโซ ได้ถามชายผู้นี้กลับว่า

.
เอนโซ : คุณทำธุรกิจอะไรหรือครับ?

ชายผู้นั้น : ผมทำธุรกิจรถแทรกเตอร์ครับ

เอนโซ : งั้นคุณก็ไม่เข้าใจเรื่อง Super Car หรอกครับ

ชายผู้นั้น : ใช่ ผมอาจไม่เข้าใจเรื่อง Super Car เท่าคุณ แต่ผมมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ดีนะครับ

.
เอนโซ ไม่พูดอะไรต่อ และเดินจากไปพร้อมกับไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ชายผู้นี้กำลังเสนอแนะ…

.
มาถึงจุดนี้แล้ว…..ใครพอจะเดาได้แล้วว่า ชายผู้นี้ชื่ออะไรครับ?

.
สำหรับคนที่เดาได้ คุณเก่งมากครับ แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้ ไม่เป็นไรนะครับ….ผมกำลังจะเฉลยแล้ว

.
เมื่อชายคนดังกล่าวได้พบ และพูดคุยกับเอนโซ เฟอร์รารี่แล้ว แต่เอนโซ ไม่ให้ค่าในคำพูดของชายผู้นี้เลย แถมยังดูถูกว่าชายผู้นี้ ไม่มีความรู้และความเข้าใจในเรื่อง Super car ชายผู้นี้ จึงได้ตัดสินใจที่จะทำรถ Super Car ที่มีสมรรถนะของเครื่องยนต์ดีกว่า Ferrari ให้ได้ และแน่นอน วันนึง ชายผู้นี้ ก็ทำสำเร็จ ชายผู้นั้นมีนามว่า “เฟร์รุชชิโอ สัมโบร์กินี” (Ferruccio Lamborghini)

.
ใครทายถูกบ้างครับว่าชายผู้นี้ ชื่ออะไร? ยินดีด้วยถ้าคุณทายถูก แต่ถ้าทายไม่ถูกไม่เป็นไรนะครับ สิ่งที่สำคัญกว่าการทายชื่อให้ถูกต้อง คือผมอยากจะบอกว่าในโลกใบนี้จะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา ในบางสถานการณ์คุณอาจคือ Mr. Ferrari คนที่ทำอะไรมาอย่างยาวนาน มีธุรกิจใหญ่โต มีความมั่นใจในตัวเองสูง และไม่ฟังความคิดเห็นจากคนที่คุณคิดว่าเค้าด้อยกว่าคุณ หรือในบางสถานการณ์คุณอาจเป็น Mr. Lamborghini คนที่อาจจะดูเป็น Mr. Nobody ที่เป็นใครก็ไม่รู้ แต่คุณมีความมั่นใจในความสามารถและศักยภาพของตัวเอง และกล้าที่จะพูด และลงมือทำในสิ่งที่คนธรรมดาอาจไม่กล้าทำก็ได้

.
ฉะนั้นในวันที่คุณต้องสวมบทบาท Mr.Lamborghini คุณอาจจะยังเป็นคนตัวเล็กๆ เป็นคนที่ผู้อื่นยังไม่ให้ความสำคัญ แต่ถ้าคุณคิดว่าไอเดียของคุณมันดีมาก จงกล้าที่จะพูดออกมา อย่าอายที่จะเงียบๆอยู่ที่มุมห้องและปล่อยไอเดียดีๆ ให้มลายหายไปในอากาศ เพราะคุณไม่มีทางรู้หรอกว่า ไอเดียของคุณอาจจะเปลี่ยนโฉมโลกใบ ในระดับที่คุณนึกไม่ถึงเลยก็ได้ แต่ถ้าคุณได้บอกไอเดียที่สุดยอดนั้นออกมาแล้ว แต่ผู้อื่นก็ยังไม่เห็นค่า ไม่เป็นไรครับ ผมเสนอให้คุณลงมือทำ ให้คนเหล่านั้นเหล่านั้น “ว้าว และร่วมดีใจ” ในวันที่คุณประสบความสำเร็จแทนละกัน

.
และในวันใด ที่คุณต้องสวมบทบาท Mr. Ferrari ผมอยากให้คุณจำไว้ว่า เราไม่ได้รู้ทุกอย่างดีที่สุด มีคนที่รู้อะไรบางอย่างดีกว่าเราเสมอ จงเปิดรับทุกความคิดเห็น แม้จะมาจากคนที่คุณคิดว่าเค้ารู้น้อยกว่าคุณ จงเรียนรู้ที่จะเป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนบ้าง รับฟังความเห็นของผู้อื่น เพราะเพียงคอมเม้นส์สั้นๆ เพียงคอมเม้นท์เดียว อาจเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล

.
#InvisibleLight

#แสงที่มองไม่เห็น
————————————————-
สนใจเข้าร่วมขยายโอกาสทางธุรกิจของคุณกับกลุ่ม Bni Energy
สามารถติดต่อนัดหมายได้ทาง inbox เลยค่ะ
m.me/bnienergythailand