Marketing Automation การตลาด Online แบบ Passive income
By นก Online MKT ที่ปรึกษา และ sale online ผู้เชี่ยวชาญด้าน Google, SEO
ในยุคนี้ หลายธุรกิจน่าจะเลือกเครื่องมือ “Marketing Automation” ซึ่งเป็นเครื่องมือการตลาดที่นำเสนอสินค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ตรงเวลา และตรงใจลูกค้าได้มากที่สุดนะคะ เพราะเป็นระบบทำการตลาดให้กับลูกค้าแบบอัตโนมัติ และลูกค้าจะเป็นฝ่ายเข้ามาหาคุณเอง
โดยจากสถิติ ธุรกิจที่มีการทำการตลาดอัตโนมัติ มีจำนวนผู้เข้าชม (leads) มากขึ้นถึง 80% และมีอัตราการเปลี่ยนผู้ชมเป็นลูกค้า (conversion) ได้มากขึ้นถึง 77% เลยค่ะ
แล้วทำไมการใช้ Marketing Automation ถึงเอาชนะการตลาดแบบเดิมๆได้? เราหาดูเหตุผลกันนะคะ
1. เข้าใจลูกค้า สามารถวิเคราะห์ keyword วิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าผ่านช่องทางการขายได้แม่นยำ ทำให้สามารถแยกกลุ่มลูกค้า เข้าใจความต้องการว่าลูกค้ากลุ่มไหน มีความต้องการอะไรเป็นพิเศษ จึงสามารถเชื่อมต่อและเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง เช่น การใช้ระบบ Email ควบคู่ไปกับการทำ SEO , SEM
2. ประหยัดการลงทุน เมื่อมีความเข้าใจลูกค้าทำให้สามารถนำเสนอสิ่งที่ตรงใจให้กับลูกค้าได้ แม้ว่าเงินลงทุนเท่าเดิม แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเพิ่มขึ้นมหาศาล
3. ประหยัดเวลา งานที่เคยต้องใช้คนทำ เสียเวลาหลายๆชั่วโมง สามารถลดเวลาลงได้เมื่อมีระบบอัตโนมัติ เช่นการยิง Ad campaign, content SEO ต่างๆ ที่สามารถใช้ program ทำให้ลดเวลาและแรงงานในการทำ
4. ลดข้อผิดพลาด ใช้ระบบอัตโนมัติทำแทน ลดปัญหาในการเกิดข้อผิดพลาดจากคน เช่น การกรอกข้อมูลผิด
5. เก็บข้อมูลอัตโนมัติ ระบบสามารถเก็บข้อมูลและพฤติกรรมต่างๆของลูกค้าใน sales funnel ทำให้สามารถวิเคราะห์และดูแลลูกค้าทั้งใหม่และเก่าไม่ให้หลุดหายไปไหนได้
จากประโยชน์ทั้งหมดที่กล่าวมา จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ Marketing Automation เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ นักการตลาดในยุคดิจิทัลให้ความสำคัญ เพราะช่วยให้การทำงานของนักการตลาดแม่นยำขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
.
แล้วธุรกิจเรา จะทำ Marketing Automation อย่างไรได้บ้าง? ลองทบทวนตัวเองก่อนเริ่มทำกันนะคะ
1. ธุรกิจของเราเหมาะที่จะใช้ Marketing Automation หรือไม่?
การเลือกตัดสินใจใช้ Marketing Automation สิ่งหนึ่งที่จะใช้ในการประกอบการตัดสินใจ คือ Traffic ที่เข้ามา หรือจำนวนลูกค้า ซึ่งค่อนข้างที่จะสำคัญ หากธุรกิจของเรายังมีจำนวนลูกค้าที่น้อยหรือ Traffic ที่เข้ามายังไม่เยอะมาก การใช้ Marketing Automation ก็อาจจะยังไม่ใช่เวลาที่ควรสักเท่าไหร่ค่ะ เพราะก็คงไม่คุ้มค่ากับการลงทุนที่ลงไปกับการใช้งานเครื่องมือเหล่านี้ ลองมองตัวเลือกเสริมการทำ Marketing อย่าง SEO น่าจะเหมาะกว่า
2. ธุรกิจเราอยู่ขั้นไหน เหมาะกับใช้ Marketing Automation แบบไหน ?
หลังจากที่รู้แล้วว่าตัวธุรกิจของเราเหมาะสมหรือไม่ คำถามต่อไปคือ เราจำเป็นต้องใช้มันหรือยัง ? แล้วเราจะเลือกใช้มันอย่างไร ? เช่น ถ้าคุณต้องการให้คนรู้จักสินค้าคุณมากขึ้น แปลว่าเป้าหมายของคุณคือ Awareness ลองมองตัวเลือกเสริมการทำ Marketing อย่าง Ad ทั้ง Google ad, Social Media ad น่าจะเหมาะกว่าในช่วงแรก
เมื่อเรารู้ว่าธุรกิจของเรากำลังอยู่ใน Stage ใดในการทำการตลาดแล้ว ขั้นต่อมาเราต้องรู้ว่าเราจะใช้เครื่องมือ Marketing Automation เข้ามาทำอะไรได้บ้างในแต่ละ Stage ค่ะ
ซึ่งเครื่องมือ Marketing Automation ที่สามารถเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระได้นั้นก็จะเป็น เครื่องมือที่จะช่วยในการจัดการ และ schedule การลง Content SEO หรือ Ads บนช่องทาง Google ad, Social mediaต่าง ๆ ของเราที่สามารถจัดการได้ในเวลาเดียวกัน
ดังนั้นเราจึงต้องใช้ Marketing Automation เพื่อเก็บข้อมูลและนำมาจัดกลุ่มเพื่อ นำไปทำการตลาดแบบ Personalized Marketing ได้ตรงกับความสนใจของลูกค้า ทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าประทับใจ และมีความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์ ส่งผลดีต่อเราในระยะยาว
ในช่วงแรกๆ คุณอาจจะต้องเฝ้าติดตามผลการทำ Marketing Automation บ่อยๆนะคะ อาจจะเริ่มจากการเข้ามาดูทุกวันและปรับเปลี่ยน เมื่อระบบอยู่ตัวแล้ว การมารีวิว Workflow ต่างๆ ที่เคยสร้างไว้สักเดือนละครั้งหรือไตรมาสละครั้งก็เป็นสิ่งที่เพียงพอแล้ว หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นวางแผน เลือกเครื่องมือ และลงมือทำ Marketing Automation ให้กับธุรกิจของคุณได้นะคะ