#เพราะนักรบธุรกิจย่อมมีบาดแผล Ep.1 Pretotype แค่เสียบปลั๊กให้ความคิด: เคล็ดลับ​ความสำเร็จในโลกธุรกิจ​ของคนที่มี Idea และพร้อมจะทำให้เป็นจริง

เวลาที่เรามีไอเดียอะไรสักอย่างและอยากจะลงมือทำออกมาในเชิงธุรกิจ​ สิ่งแรกที่เรามักจะนึกถึง คือ การทำสินค้าต้นแบบ หรือ Prototype ออกมา เพื่อทดสอบว่า ตรงตามไอเดียที่เราคิดหรือไม่

แต่กระบวนการข้างต้น มักมีข้อจำกัด ทางด้าน เงินลงทุนและเวลา แม้จะเป็นเพียง Prototype​ แต่หลายไอเดียที่เราคิด ก็ยังต้องใช้เงินทุนไม่น้อยเพื่อทำต้นแบบออกมา ตัวอย่างเช่น ย้อนกลับไปเมื่อ 20ปีที่แล้ว IBM คิดที่จะทำระบบพิมพ์ด้วยเสียง แทนการพิมพ์​บนคีย์​บอร์ด​ แต่ ณ ขณะนั้นอุปกรณ์​ฮาร์​ดแวร์ไม่อำนวย แถมต้นทุนในการผลิตยังสูงมาก การทำ Prototype​ตัวต้นแบบขึ้นมา จึงไม่คุ้ม เพราะยังไม่แน่ใจด้วยว่า ทำออกมาแล้วจะทำตลาดได้ไหม

ทาง IBM จึงอยากวิจัยตลาดดูก่อนว่า ผู้คนจะมีปฏิกิริยา​อย่างไร หากได้พบระบบ พิมพ์​ด้วยเสียง พวกเขาจัดทำระบบพิมพ์​ด้วยเสียงแบบหลอกว่าเป็น โดยการให้ผู้ที่มีความสามารถในการพิมพ์​คีย์บอร์ด​ตามคำพูดได้อย่างรวดเร็ว ซ่อนไว้ที่อีกห้องหนึ่งแต่ใกล้พอที่จะได้ยินทุกคำพูดที่คนพูดใส่ไมโครโฟนเพื่อเข้าสู่ระบบพิมพ์​ ผลปรากฏ​ว่า ผู้ที่เข้ามาทดสอบระบบต่างมีความประทับใจและชื่นชอบระบบนี้มาก อยากให้เกิดขึ้นจริง โดยหารู้ไม่ว่า นี่เป็นเพียง “การจัดฉาก”

แต่การจัดฉากในครั้งนั้น ทำให้ IBM มั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์​ Speech to Text ที่มีcore function คือ การพูดและพิมพ์​อัตโนมัติ​ทางหน้าจอ ที่พวกเขาจะทำออกมาในอนาคต มันเป็นสิ่งที่เรียกว่า “The Right It” โดย IBM ใช้เงินทุนในการสร้างสถานการณ์​นี้ไม่มากนัก หากเทียบกับการลงมือทำต้นแบบออกมาเลย

กระบวนการจัดฉากระบบ Sppech to Text ที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น เป็นกระบวนการทำ ภายใต้แนวคิด Fake It Before You Make It โดย Alberto Savoia อดีตผู้บริหารสายวิศวกรรม ผู้อยู่เบื้องหลัง​ระบบ Google Adwords นิยามการทำแบบนี้ก่อนจะผลิตตัวต้นแบบและสินค้าออกมาจริง ว่า Pretotype

Alberto คิดค้นและทดลองใช้ใน Google ตั้งแต่ปี2010 ซึ่งตอนนี้เริ่มแพร่หลายออกมาทั่วโลก แต่ในไทยยังคงมีการพูดถึงในวงแคบ ทั้งที่หากเรามองให้ดี Pretotype​ ต่างอยู่ในชีวิตประจำวันของเรส และถ้าเราตกผลึกความคิด Pretotype​ออกมาได้ จะมีประโยชน์​มหาศาลต่อธุรกิจ​ที่เราทำ

“Pretotype​ ในชีวิตจริงของคนทำธุรกิจ”

ปฏิเสธ​ไม่ได้ว่า พวกเราทุกคนต่างมองหาไอเดียความคิดใหม่ๆในการสร้างธุรกิจ​อยู่เสมอ ไม่มีข้อยกเว้นทั้งคนมีธุรกิจอยู่แล้วหรือยังไม่มี แต่จากสถิติพบว่า ไอเดียดีดีส่วนใหญ่​แม้มีความแปลกใหม่ แม้ลงมือทำออกมาอย่างรวดเร็ว มีความเป็นผู้นำตลาด ณ ขณะนั้น แต่จำนวนที่อยู่รอดไปต่อได้ในโลกธุรกิจ​มีไม่ถึงครึ่ง เพราะขาดการตอบคำถามพื้นฐาน Is this the right thing to build? สิ่งนี้มันคือสิ่งที่ใช่ ที่เราควรสร้างขึ้นมาไหม? ตั้งแต่แรก หรือหลายรายมีไอเดีย แต่มีข้อจำกัดทางด้านการเงินและเวลาในการทำไอเดียออกมาสู่โลกความจริง ทำให้จอดป้ายตั้งแต่เริ่ม

การทำ Pretotype​ เพื่อหาฐานเสียงจากกลุ่มเป้าหมายที่จะมาใช้สินค้าหรือบริการจากไอเดียของเรา มาสนับสนุน จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำแต่แรก ไม่ใช่เพียงแค่ทำให้ดูน่าตื่นเต้น ในช่วงระยะเวลาสั้นๆของการ Pitching การระดมทุน ที่บรรดา startups นิยมทำ

เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า การที่เราระดมทุนมาได้มาก มันจะตอบคำถามว่า สิ่งนี้คือสิ่งที่ใช่ในแง่ธุรกิจ​ เพราะคนที่มาระดมทุน อาจจะแค่รู้สึกอยากได้ในช่วงเวลาอันสั้น ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง และนี่เป็นที่มาของการล้มหายตายจากจำนวนมากของ “นักขายฝัน” ทั้งที่ชนะการ pitchingและได้รับทุนพอสมควรในเวที startups

เราจะทำ Pretotype​ได้อย่างไร?

ผมมีโอกาสได้เรียนรู้แนวคิด Pretotype​จากหนังสือPretotype It ของ Alberto ที่เขาตีพิมพ์ออกมาในรูปแบบ Free ebook โดยโฆษณาผ่านเว็บไซต์​ของเขาและGoogle เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง Pretotype​ให้กับแนวความคิดที่เขาจะเขียนหนังสือเล่มจริงเพื่ออธิบาย Pretotype​ and Pretotyping อย่างครบถ้วน (ขณะที่ปมเขียนบทความนี้ หนังสือฉบับจริงของ Alberto ตีพิมพ์​ออกมาแล้ว ได้รับความนิยมในวงกว้างเสียด้วย นั่นสือให้เห็นว่า Pretotype​ ที่เขาทำออกมา ประสบความเร็จ)

ใช่แล้วครับ หากเรามีไอเดีย วิธีแรกในการสร้าง Pretotype​ที่เราทำได้เลยคือ โปรโมทและโฆษณา​ไอเดียนั้น เพื่อดูผลการตอบรับ

เราเริ่มจากลองพูดคุยนำเสนอไอเดียของเราต่อคนใกล้ชิด เพื่อนฝูงของเรา และจดสถิติไว้ว่า จำนวนคนมีปฏิกิริยาในแง่บวกและ จำนวนคนที่เราไปคุย มีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อนำมาคิดอัตราส่วนคนที่สนใจ

ลองขยายวงเพิ่มจากคนที่เรารู้จัก ไปในโลกออนไลน์​ เว็บบอร์ด​, กลุ่มFacebookของคนที่อาจจะมาสนใจไอเดียของเรา เช่น เรามีไอเดียทำแหวนสำหรับผู้มีความเชื่อแบบจีน เราก็ต้องลองไปซาวเสียง สร้างสตอรี่เพื่อสื่อถึงแหวนของเรา ในกลุ่มคนที่สนใจโหราศาสตร์​จีน หรือกลุ่มลูกหลานเชื้อสายจีน เนื่องด้วยมีโอกาสสูงกว่ากลุ่มคนทั่วไปที่ไม่ๆด้เกี่ยวข้องใดๆหรือสนใจอะไรในจีนเลย

หากเรามีงบประทาณจำนวนหนึ่ง เราอาจลองสร้างโฆษณา​บน Facebook​หรือ Google รวมถึงช่องทางอื่นๆ เพื่อดูอัตราการสนใจในไอเดียของเรา ว​่า Right หรือไม่ ก็ได้

นอกเหนือจากวิธีที่กล่าวมา การเอาตนเองไปอยู่ในแหล่งคนทำธุรกิจ​ เช่น กลุ่ม BNI Energy​ Thailand (ที่ทุกคนกำลังอ่านบทความอยู่ตอนนี้)​ ก็เป็นหนึ่งในวิธีการทำ Pretotype​ ที่ง่ายที่สุด เราสามารถเงี่ยหูฟังไอเดียและประสบการณ์​การทำธุรกิจ​ของบุคคลอื่น ในขณะเดียวกันเราสามารถปักธงว่า “ฉันคือคนที่ทำธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์​นี้” ในการพูดคุยสร้างความสัมพันธ์​กับเพื่อนนักธุรกิจ​ภายในกลุ่ม ซึ่งเราสามารถสังเกต เก็บข้อมูล​ได้ว่า “สิ่งที่เราจะทำ (แต่ตอนนั้นเรา Fake It Before Make It ไปเรียบร้อยแล้วนะ ว่าเราทำแล้ว)​ คนฟังมีปฏิกิริยา​เช่นไร” แต่วิธีการนี้มีข้อเสียคือ การเข้าร่วมกลุ่มเครือข่ายหรือการสร้าง connection กลุ่มธุรกิจแบบนี้ เราต้องมีธุรกิจหลักที่เราทำอยู่ก่อนแล้ว ถ้าเรายังมีแต่ไอเดีย ไม่เคยทำธุรกิจ​ใดๆ อาจจะเพิ่งจบใหม่ หรือยังเป็นพนักงานประจำ แนะนำให้ค้นหา สัมมนา -​อบรมการสร้างธุรกิจ​ อาทิ อบรมสร้างผู้ประกอบการ​ใหม่ NEC ของกระทรวงอุตสาหกรรม​ ภายในการอบรม มีกิจกรรมเขียนBusiness model นำเสนอต่อผู้ฝึกสอนและ เพื่อนร่วมการอบรม ซึ่งเราสามารถเก็บ feedback ได้อย่างดี

เมื่อเราใช้ Pretotype​ จนรู้ได้ว่า Is this the right thing to build? ขั้นตอนต่อไปคือ ลงมือทำจริงให้สำเร็จ​ อย่าปล่อยให้ Idea is Cheap ( เพราะเราไม่ยอมลงมือทำ)​ อีกต่อไป…

เขียนโดย ภากร กัทชลี (ปอ อ้ายจง)