เมื่อความขยันไม่ใช่หนทางสู่ความสำเร็จ

“I choose a lazy person to do a hard job. Because a lazy person will find an easy way to do it.” -Bill Gates

“จงใช้คนที่ขี้เกียจทำงานที่ยาก เพราะเขาจะหาทางที่ง่ายที่สุดทำมันออกมา” -บิล เกตส์

ผมเคยได้ยินคำพูดนี้มานานแล้วแต่ก็รู้สึกไม่ได้เห็นด้วยกับมันเท่าไรนัก เพราะคำว่าขี้เกียจค่อนข้างจะขัดกับมโนสำนึกในยุคที่ผมเติบโตมาพอสมควร ความมุ่งมั่นตั้งใจ ขยันอดทน พยายามต่างหาก ที่ควรจะนำมาซึ่งความสำเร็จ
.
จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้
ผมพบเพื่อนคนนึง ที่ดูเขาจะประสบความสำเร็จ(ทางการเงิน) มากกว่าเพื่อนๆ ในรุ่นเดียวกันพอสมควร เขาเล่าให้ฟังว่ายอดขายในธุรกิจของเขาปีที่ผ่านมาคือสองร้อยล้านบาท เป็นธุรกิจที่เขาตั้งขึ้นเองไม่ได้รับมรดกมาจากพ่อแม่ และปัจจุบันก็มีพนักงานไม่เกินห้าคน
.

คำพูดประจำตัวของเขาคือ
“ทำงานยังไงก็ได้ให้กูสบาย”
พร้อมกับหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ….
ฟังดูไม่น่าจะไปเป็นQuote
ที่ดูดีของคนสำเร็จได้เลย…ถถถ
.
แน่นอนตั้งแต่รู้จักเขามาเกินยี่สิบปี เขาไม่ใช่คนขยันแน่ๆ สมัยเรียนมหาลัย ผมกับเขาเรียนในโรงเรียนออกแบบด้วยกัน มีหลายวิชาที่จะต้องสร้างโมเดลจากงานออกแบบของเรา เขาเล่าให้ฟังว่า ส่วนของโมเดลเขาจะไปจ้างช่าง หรือนักเรียน รร ช่างที่ถนัดในการทำโมเดล เพราะเขาเป็นนักออกแบบไม่ใช่ช่าง
.
ซึ่งนับเป็นความคิดที่ฟังแล้วก็แปลกๆ เพราะเพื่อนๆ ต่างต้องอดตาหลับขับตานอนทำงานเพื่อส่งอาจารย์กันจนถึงเช้า แต่เขาทำเฉพาะส่วนที่ตัวเองต้องทำ (ในที่นี้คืองานออกแบบ)
ส่วนที่เหลือเขาจ้างคนอื่นทำเพราะ Concept “ทำยังไงก็ได้ให้กูสบาย โฮะๆ”
.
เวลาผ่านมาหลายปี ในมุมของผู้ประกอบการ การทำเฉพาะสิ่งที่ตัวเองถนัด และแบ่งส่วนที่ไม่ถนัดให้คนอื่นทำ เป็นสิ่งที่ Make Sense และทุ่นเวลามากทีเดียว
.
ผมมีเพื่อนอีกจำนวนมากที่มีความขยัน อดทน มุ่งมั่น กว่าเพื่อนขี้เกียจคนนี้ของผมแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นตอนสมัยเรียน หรือการทำงานในปัจจุบัน หลายๆ คนยังคงทำงานหนัก มุ่งมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ให้ทันโลก
.
แต่ก็ยังคงมีปัญหาทางการเงิน
หรือมีความสำเร็จระดับกลางๆ
เหมือนที่มีคนเคยบอกไว้ว่า
“ขยันผิดที่ สิบปีก็ไม่รวย”
.
นึกถึงหนังสือระดับตำนาน เล่มนึง ที่ชื่อว่า The 4-Hours Workweek โดย Tim Ferriss หนังสือขายไอเดียถึงการออกแบบชีวิตและการทำงาน ให้มีรายได้ดี โดยใช้เวลาการทำงานให้น้อยที่สุด เพื่อจะได้สามารถเอาเวลาไปใช้เดินทาง
ท่องเที่ยว หรือฝึกฝนทักษะใหม่ๆ
.
คือถ้ามีรายได้มากขึ้น แต่ทำให้ต้องใช้เวลาทำงานมากขึ้น ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี Concept ของหนังสือเล่มนี้เรียกว่าตรงเปี๊ยะ กะเพื่อนขี้เกียจของผมเลยทีเดียว
.
แล้วถ้าไม่ใช่ ความขยัน มุ่งมั่น อดทน เป็นสิ่งที่จะพาเขาไปสู่ความสำเร็จ แล้วอะไรล่ะ?
.
สำหรับเพื่อนผมคนนี้ ผมคิดว่าเขามีหนึ่งในอุปนิสัยที่ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จ ที่อ้างอิงได้จากหนังสือคลาสสิก The 7th habits of highly effective People นั่นก็คือ “Begin with the end in mind”
.
เขาเลือกตั้งแต่ต้นว่าเขาจะไม่ทำงานหนัก เขาเลือกเฉพาะอาชีพที่ทำผลตอบแทนมาก และใช้เวลาน้อย อ่านมาถึงตรงนี้ คุณอาจจะอยากรู้ว่าเขาทำอะไร
.
.

“เขาค้ายาครับ”

บรรทัดสุดท้ายของบทความผมล้อเล่น เขาซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมของสะสม ที่มีมูลค่าต่อหน่วยสูง เช่นนาฬิกา กระเป๋า รถยนต์ ทำให้เขาไม่ต้องขายของจำนวนมากแต่สามารถสร้างยอดขายต่อหน่วยสูงมาก และสามารถเก็บไว้ได้นานโดยของมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตลอดระยะเวลาที่เก็บอีกด้วย เรียกว่า Stock ไม่เสื่อมมูลค่า กับเพิ่มมูลค่า
————————————————-
สนใจเข้าร่วมขยายโอกาสทางธุรกิจของคุณกับกลุ่ม Bni Energy
สามารถติดต่อนัดหมายได้ทาง inbox เลยค่ะ
m.me/bnienergythailand