BNI หรือ Business Network International เป็นองค์กรที่มุ่งเน้นสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างสมาชิก โดยการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้สมาชิกได้พบปะแลกเปลี่ยนธุรกิจซึ่งกันและกัน ทําให้เกิดการบอกต่อและแนะนําลูกค้าระหว่างสมาชิก ส่งผลให้ธุรกิจของสมาชิกเติบโตขึ้น
“ประโยชน์ของ BNI” ที่สมาชิก จะได้รับ
1. ได้พบปะผู้คนใหม่ๆ ที่อาจจะกลายเป็นลูกค้าในอนาคต
2. เพิ่มยอดขายและกําไร เนื่องจากได้รับการแนะนําลูกค้าใหม่จากสมาชิกในเครือข่าย
3. ขยายเครือข่ายทางธุรกิจ ทําให้มีโอกาสในการทําธุรกิจมากขึ้น
4. เรียนรู้วิธีการทําการตลาดแบบปากต่อปาก ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพสูง
5. พัฒนาทักษะทางธุรกิจ เช่น ทักษะการนําเสนอ การเจรจาต่อรอง
6. ได้รับคําแนะนําและข้อเสนอแนะจากสมาชิกคนอื่นๆ ในการปรับปรุงธุรกิจ
7. มีแรงบันดาลใจในการทําธุรกิจ เพราะได้เห็นตัวอย่างความสําเร็จของสมาชิกคนอื่นๆ
8. มีสังคมทางธุรกิจที่เข้มแข็ง คอยสนับสนุนและห่วงใยกันในยามที่ธุรกิจมีปัญหา
นอกจากนี้ BNI ยังจัดอบรมสัมมนาต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความรู้และพัฒนาทักษะให้กับสมาชิกอีกด้วย เช่น การบรรยายพิเศษเกี่ยวกับเทคนิคการขาย กลยุทธ์การตลาด การบริหารจัดการธุรกิจ เป็นต้น ทําให้สมาชิกมีความรู้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นําไปพัฒนาธุรกิจของตนเองให้เติบโต
BNI เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมได้ในฐานะสมาชิกสมทบก่อน เพื่อดูว่ากิจกรรมต่างๆ ตรงกับความต้องการหรือไม่ หากพึงพอใจก็จะสมัครเป็นสมาชิกประจํา ค่าสมาชิกขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3,000-15,000 บาทต่อเดือน ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก เมื่อเทียบกับผลตอบแทนและโอกาสทางธุรกิจที่จะได้รับจากการเป็นสมาชิก
สําหรับ SMEs หรือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม BNI เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เพราะได้สร้างเครือข่ายกับธุรกิจต่างๆ ที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสของ SMEs ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์เรียนรู้จากธุรกิจที่ประสบความสําเร็จ ซึ่งจะช่วยให้มองเห็นแนวทางในการพัฒนาธุรกิจของตนเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งเป็น “ประโยชน์ของ BNI” ที่นักธุรกิจหลายคนตามหา
ข้อดีของการเป็นสมาชิก BNI
1. ได้การรับรองและความเชื่อถือ เพราะสมาชิกรายอื่นๆ จะคอยแนะนําและให้การรับรองธุรกิจของเรา
2. ประหยัดงบประมาณด้านการตลาด เนื่องจากไม่ต้องใช้จ่ายมากมายกับการโฆษณา
3. เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้โดยตรง จากการแนะนําต่อของสมาชิก
4. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับธุรกิจอื่นๆ เพื่อการเติบโตร่วมกัน
5. เรียนรู้ข้อมูลและเทคนิคทางธุรกิจใหม่ๆ อย่างสม่ําเสมอ
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของการเป็นสมาชิก BNI ก็คือ ต้องลงทุนค่าสมาชิกเป็นรายเดือน ซึ่งบางธุรกิจอาจยังไม่พร้อมลงทุนในช่วงแรก นอกจากนี้ยังต้องตั้งใจเข้าร่วมกิจกรรมอย่างสม่ําเสมอด้วย จึงคุ้มค่ากับเงินลงทุน
จะเห็นได้ว่า BNI ให้ทั้งประโยชน์และโอกาสมากมายแก่สมาชิก ทั้งการขยายเครือข่ายทางธุรกิจ การเพิ่มยอดขายและกําไร รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของตนเองและธุรกิจ ซึ่งส่งผลดีต่อการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
SMEs ที่สนใจ “ประโยชน์ของ BNI” สามารถทดลองเข้าร่วมกิจกรรมของ BNI Energy ก่อนได้ เพื่อประเมินว่าตรงกับความต้องการหรือคาดหวังหรือไม่ ถ้าพึงพอใจคุ้มค่ากับเงินลงทุนก็ควรสมัครเป็นสมาชิกประจํา เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ ในระยะยาว BNI จะสร้างคุณค่ามหาศาลให้กับธุรกิจ SMEs อย่างแน่นอน